Day 304: 1/29/2019
ชีวิตนักเรียนป.เอกที่ยอร์คสำหรับเรามันสนุกแต่ก็ยากมากเช่นกัน
ในแต่ละอาทิตย์การบริหารจัดการเวลาเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเราเสมอ นอกจากเรียนและทำงานปริญญาเอกของตัวเองแล้ว ทุกวันนี้เราทำงาน 2 ที่ คือ เป็น intern ที่ Global Engagement (วิเทศสัมพันธ์) ของมหาวิทยาลัยและเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านอาหาร 2–3 วันต่อสัปดาห์
แม้การเรียนป.เอกที่นี่จะไม่มี coursework เหมือนที่อเมริกาแต่เราก็ต้องเข้าเรียนเทอมละ 1 วิชาซึ่งเป็นวิชาเกี่ยวกับงานวิจัยที่สามารถจะเอามาปรับใช้ได้โดยตรง
นอกจากนี้แล้วเรายังต้องเข้าร่วมประชุม Education Research Group (ERG) ที่ Department ทุกวันศุกร์ระหว่างภาคเรียน เข้าออฟฟิศของนักศึกษาปริญญาเอกเพื่อไปทำงาน แลกเปลี่ยนทัศนคติ และปรึกษาปัญหากับเพื่อนๆที่มากประสบการณ์กว่าเราสัปดาห์ละ 2–4 ครั้ง
การเข้าเรียนและเข้าประชุมต่างๆ ทำให้เรามีเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันที่สนิทพอสมควรที่มาจากโปแลนด์ อเมริกาและอังกฤษ ถ้าว่างตรงกันเราก็นัดกินข้าว แลกเปลี่ยนกันบ้าง นอกจากการเจอกันในคลาสทุกสัปดาห์
ในส่วนของการเดินทางไปที่ต่างๆ ส่วนมากเราเดินเช่น ไป-กลับมหาวิทยาลัย ใช้เวลาประมาณ 23 นาทีต่อเที่ยว ถ้าหน้าร้อนหรืออากาศดีๆเราก็ปั่นจักรยานซึ่งจะใช้เวลาลดลงเหลือ 12 นาที10 เดือนที่ผ่านมา
เราเข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษาทั้งหมด 8 ครั้ง
ประชุม TAP Meeting 2 ครั้ง
และกำลังจะสอบ Progression เพื่อเลื่อนเป็นปี 2 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
การเตรียมตัวสำหรับการประชุมแต่ละครั้งเป็นเรื่องใหญ่เสมอสำหรับเรา เราใช้เวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ในการเตรียมตัวสำหรับประชุมเล็ก และอย่างน้อย 3 สัปดาห์สำหรับการประชุมใหญ่ อาการที่เป็นทุกครั้งก่อนการประชุมไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่คือจะนอนหลับไม่สนิท ตื่นตลอดทั้งคืน อย่างน้อย 1–2 สัปดาห์ล่วงหน้า
10 เดือนที่ผ่านมา
เราเรียน 2 วิชา
เข้าเรียนเวิร์คชอปไปทั้งหมด 14 ครั้ง
เข้าร่วมคอนเฟอร์เรนซ์ 4 ครั้ง โดยเป็นการนำเสนองานวิจัยตัวเอง 1 ครั้ง
สัมภาษณ์งานที่มหาวิทยาลัย 2 ครั้ง
เขียนบทความออนไลน์ 270+ บทความ
ทำพอดคาสต์ 16 ตอน
ป่วย 2 ครั้ง
กลับไทย 10 วัน
ย้ายบ้าน 3 ครั้ง
เที่ยวในอังกฤษ 4 เมือง
และที่สำคัญคือเราปรับ proposal นับครั้งไม่ถ้วน
#เพราะการวิ่งไม่ใช่แค่วิ่ง
สำหรับเราการได้วิ่งกลายเป็นเรื่องท้าทายเมื่อเรียนที่นี่ ก่อนการออกไปวิ่งทุกครั้งเราต้องวางแผนล่วงหน้าบางครั้งเป็นรายสัปดาห์ว่าจะวิ่งวันไหน เวลาไหน วิ่งได้นานเท่าไหร่ การวิ่งได้สัปดาห์ละ 4 ครั้งหมายถึงการวางแผนและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของเรา เพราะถ้าเราทำตามแผนที่วางไว้ไม่ได้ เช่น งานที่ตั้งใจจะทำแค่ 2 ชั่วโมงแต่กินเวลาไป 3 ชั่วโมงก็จะทำให้เราต้องยกเลิกการวิ่ง เพราะจะไปกระทบแผนส่วนอื่นๆที่เหลือของวัน ช่วงนี้ได้วิ่งแค่ 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์เพราะการบริหารเวลาทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรทำให้งานมากกว่าเวลาที่เรามีเลยต้องไปเบียดบังเวลาพัก
เพราะเป้าหมายของเราสำหรับการมาเรียนปริญญาเอกที่นี่ คือ ต้องสนุกกับเรียน ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งชีวิตและการเรียน ใช้ชีวิตรอบด้าน และมีสุขภาพที่ดี เราถึงได้ทำอะไรหลายๆอย่าง ไปพร้อมๆกัน เพราะนั่นก็ถือเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่งเหมือนกัน
1/30/2019 12.15 am.